ต้องบอกก่อนนะครับว่ารอบนี้เป็นการนำประสบการณ์กลับมาเล่าแบ่งปันกันเพื่อเป็นทิปเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนที่มีเวลาในการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและมีเวลาเหลือเฟือที่จะเที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบเที่ยวรีบกลับ ซึ่งสำหรับผมการเดินทางไปเที่ยวไกลๆ การรีบไปรีบกลับดูจะเหนื่อยและเร่งรีบไป (แก่แล้วครับ..ขอเวลาปรับตัวนิดนึง 555)
ในครั้งนั้นของผมก็วางแผนล่วงหน้าเช่นกันเพื่อที่จะเที่ยวให้คุ้มที่สุดสมกับที่บินไปไกลหลายชั่วโมง โดยบินไปลงที่เยอรมันนีแวะเยี่ยมเพื่อนก่อนหลังจากนั้นก็ไปต่อที่อิตาลีก่อนบินกลับไทย ซึ่งผมก็วางแผนบินเป็นวงกลมเลยคือซื้อตั๋วเที่ยวเดียวทั้งหมด เริ่มจากกรุงเทพฯ ไป Frankfurt เป็นตั๋วใบที่ 1 จากนั้นก็บินออกจาก Frankfurt ต่อไปที่ Napoli เพื่อสมทบกับเพื่อนอีกกลุ่มนึงที่ไปรออยู่แล้ว Napoli เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี (นโปลีเป็นชื่อในภาษาอิตาเลียนและชื่อภาษาอังกฤษคือเนเปิลส์ หรือ Naples ก็เหมือนกับชื่อกรุงเทพฯ และ Bangkok ในภาษาอังกฤษครับ) ทีนี้ขากลับมากรุงเทพฯ ผมก็ไม่อยากบินย้อนกลับไปที่ แฟร้งค์เฟิร์ตอีกก็เลยลองหาตั๋วที่บินออกจากนโปลีกลับไทยเลย ค้นหาก็มาเจอตั๋วของ Turkish Airlines ที่จะต้องเปลี่ยนเครื่องที่ Istanbul ดีเลยครับเพราะยังไม่มีโอกาสไปที่เมืองนี้ผมก็เลยได้โอกาสเลือกแวะพักที่ Istanbul 1 คืน ก่อนบินกลับไทย
- ตั๋วโดยสารที่จองล่วงหน้าหลายๆ เดือนจะถูกกว่าตั๋วที่ซื้อในเวลาใกล้จะเดินทาง
- ในบางเส้นทางการบินระหว่างเมืองขาไปคนอาจจะเยอะและขากลับเครื่องจะไม่แน่น แบบนี้ก็ทำให้ตั๋วเที่ยวขาออกไม่แพง
- การแยกซื้อตั๋วแบบขาไปเที่ยวเดียวต้องเลือกสายการบินเพราะบางสายก็จะขายตั๋วแบบเที่ยวเดียวแพง แต่บางสายการบินก็จะขายถูก (ซึ่งก็จะเป็นตามเงื่อนไขที่ 2 เพราะอาจเป็นเส้นทางบินที่ไม่ใช่ช่วง high ที่คนจะนิยมบินกัน)
- ตรวจเช็กเรื่องวีซ่าสำหรับคนไทยให้ดีว่าต้องใช้หรือไม่เพื่อเลี่ยงการติดอยู่ในสนามบินเพราะไม่ได้ขอวีซ่ามาก่อน ซึ่งในกรณีผมไปแวะค้างคืนที่ตุรกีพาสปอร์ตไทยไม่ต้องใช้วีซ่าครับ
ทีนี้พอได้ตั๋วและสรุปเส้นทางเรียบร้อยแล้วข้อต่อไปของการแวะพักหรือ stopover ให้คุ้มสำหรับคนมีเวลาคือควรเลือกนอนค้างไปเลย 1 คืน สำหรับผมการเพิ่มค่าโรงแรมและค่าอาหารอีกนิดหน่อยถือว่าคุ้มค่ากับการได้แวะเที่ยวเมืองที่เราอยากไป จากนั้นควรศึกษาข้อมูลและเลือกไปเลยว่าเราอยากดูหรืออยากไปที่ใหนกับเวลา 1 วันที่มีเพื่อไม่เสียเวลาไปค้นหา หรือต้องหลงทาง และที่สำคัญควรศึกษาการเดินทางระหว่างโรงแรมที่พักและสนามบินให้ดีเพื่อที่จะได้เผื่อเวลาให้พอดีไม่งั้นได้ตกเครื่องแน่นอน
กลับมาที่ทริปผมต่อ (เผื่อใครมีเวลาและอยากแวะพักที่ Istanbul จะได้มีข้อมูล) บินออกจาก Napoli ตอนช่วงเย็นๆ เวลาประมาณ 5 โมง ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงนิดๆ บวกลบเวลาที่ต่างกันก็แตะพื้นรันเวย์ช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน เพื่อไม่ให้รุงรังกับสัมภาระผมก็หาที่ฝากกระเป๋าที่สนามบินเลยครับ (ก่อนออกจากนโปลีก็จัดกระเป๋าแยกไว้เรียบร้อย ของที่จะใช้สำหรับ 1 คืน 1 วัน ก็จะอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก) ซึ่งสนามบินส่วนใหญ่จะมีที่ฝากกระเป๋า ราคาก็ตามขนาดก็จะมีทั้งแบบฝากกับร้านและแบบฝากตู้แต่ละที่อาจไม่เหมือนกัน
หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อย (ผมข้ามเรื่องวีซ่าไปนิด ที่ Istanbul ก็ตรวจปกติเราก็แสดงตั๋วเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้นและที่พักก็ผ่านได้ไม่มีปัญหา กรณีผมไม่ได้ถามอะไรมากก็ผ่านออกมา) ทีนี้ก็เดินทางเข้าตัวเมือง ผมเลือกใช้รถไฟเพราะสะดวก ตารางเวลาชัดเจน กะเวลาได้ทั้งขาไปและขากลับ Istanbul เป็นเมืองท่องเที่ยวฉะนั้นรถไฟที่ออกจากสนามบินเพื่อเข้าตัวเมืองก็มีไว้ให้บริการสะดวกสบายครับ ก็จะมีระบบตู้ซื้อบัตรเหมือนบ้านเรา หรืออีกวิธีจะเช็กตอนถึงสนามบินก็ได้ google map จะมีตารางและเส้นทางรถไฟให้เลือกแค่เราค้นหาปลายทางที่จะไปในตัวเมือง Istanbul
เรื่องที่เที่ยวผมเลือกไว้แล้วว่าอยากไปชม Blue Mosque ที่สวยเลื่องชื่อ บวกกับในอณาบริเวณนั้นก็จะเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญๆ ที่เก็บได้ครบในจุดเดียว ก็เลยเลือกโรงแรมที่พักแถวนั้นซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายราคา ดังนั้นจากสนามบินผมก็ตรงไปที่โรงแรมและเช็กอินเข้าห้องพัก ถึงห้องก็รีบนอนพักผ่อนเพราะอยากตื่นแต่เช้าออกไปเดินให้ทั่วตามที่ตั้งใจ (เพื่อความชัวร์ก็ตั้งนาฬิกาปลุกจะได้ไม่หลับเพลิน)
ตื่นเช้าผมก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเก็บกระเป๋าใบเล็กและลงไปฝากที่ล้อบบี้ จากนั้นก็ทานอาหารเช้าให้เรียบร้อยและเริ่มต้นเดินทัวร์ จุดแรกที่ขอเดินไปชมก่อนเลยก็ที่ Blue Mosque ซึ่งก็สวยงาม อลังการมาก มองจากภายนอกระยะไกลนี่คือสวยทุกมุม บริเวณด้านหน้า Blue Mosque ก็จะมีสวนซึ่งโชคดีมากที่ช่วงนั้นเค้าจัดดอกทิวลิปมาไว้เต็มพื้นที่ นักท่องเที่ยวเริ่มแน่นกันตั้งแต่เช้าเลยครับ ฉะนั้นภาพถ่ายก็จะติดคนไปด้วยไม่ว่ายิงภาพไปมุมใหน บริเวณด้านหน้าจะมีม้านั่งซึ่งวางเรียงรายเป็นแถวให้ได้นั่งชมความสวยงามของตัวอาคาร ผมใช้เวลากับที่นี่นานพอสมควรเพื่อชมให้ทั่วทั้งด้านนอกและด้านใน
จากนั้นก็เดินไปต่อที่ Hagia Sophia Museum เสร็จแล้วก็เดินไปโดยรอบ ซึ่งบริเวณนี้จะติดกับทะเล การเดินเล่นก็จะได้บรรยากาศอีกแบบ แดดไม่จัดช่วยให้อากาศอุ่นขึ้นมากกว่าร้อน ทั่วเมืองถูกตกแต่งด้วยดอกทิวลิปเป็นจุดๆ ร้านค้าซื้อของที่ระลึกมีให้เลือกมากมาย และที่สำคัญคาเฟ่สวยๆ น่านั่งก็มีอยู่เยอะเลยครับ ช่วงสายๆ ก่อนเที่ยงผมก็เลยจบลงที่คาเฟ่หาอะไรอร่อยๆ ทาน วันนั้นผมเลือกเดินเป็นวงกลม (ตาม google map) เพื่อกันการหลงทางระยะทางก็ร่วม 2 – 3 กิโล ก็ถือว่าคุ้มครับ
เสร็จทุกอย่างผมก็กลับไปเช็กเอาท์และเดินทางไปสนามบินด้วยรถไฟฟ้าซึ่งต้องไปต่ออีกขบวนเพื่อไปสนามบิน ก็ใช้เส้นทางเดิมที่มาเมือคืนทุกอย่างก็เรียบร้อยแบบไม่เร่งรีบ ถึงสนามบินรับกระเป๋า โหลดลงเครื่อง ผ่าน ตม. ไปรอที่เกต แบบมีเวลาเหลือเฟือ ..ใครที่มีแผนไปเที่ยวยุโรปผมอยากให้ลองมาแวะพักผ่อนที่ Istanbul ด้วยรับรองไม่เสียเที่ยวครับ
