กรุงปราก 1 ในเมืองหลวงที่มีความเก่าแก่และสวยงามที่สุดในโลก

ถ้าพูดถึงเมืองหลวงที่นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนมากที่สุด 1 ในนั้นต้องมีชื่อของ “กรุงปราก” เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กติดอับดับต้นๆ ด้วยอย่างแน่นอน นั่นก็เพราะกรุงปรากมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมในแบบยุโรป ที่นี่เป็นเมืองหลวงของประเทศในยุโรปที่รอดจากการถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังนั้นอาคาร โบสถ์และสิ่งปลูกสร้างในแบบศิลปะ Baroque และ Gothic จึงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป 

กรุงปรากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 (แต่ถ้าจะนับตั้งแต่มีผู้คนมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ก็เริ่มตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อนคริสต์กาลเลย) ถือได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่โดยมีแม่น้ำวัลตาวาผ่ากลางเมือง (ที่ตั้งยุทธศาสตร์เลยทีเดียว เพราะเมืองหลวงส่วนใหญ่รวมทั้งกรุงเทพฯ ของเราก็มีแม่น้ำสายสำคัญผ่ากลาง) เมืองหลวงแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดย UNESCO เมื่อปี 1992 เพื่อให้เมืองได้รับการดูแลและป้องกันการถูกเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้เราจึงยังคงเห็นปราสาทมากมายกระจายอยู่ทั่วไป ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับกรุงเทพฯ ที่จะมีวัดอยู่ทุกที่ กรุงปรากจึงถูกขนานนามให้เป็น the City of a Hundred Spires หรือ นครแห่งปราสาทร้อยยอด 

เขตจัตุรัสเมืองเก่าของกรุงปรากเป็นย่านที่คึกคักจึงเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก บริเวณเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่มากมาย และแน่นอน ร้านนวดไทยก็มีให้บริการเช่นกัน (คนไทยเราไปทุกที่จริงๆ) แต่ทั้งหมดล้วนอยู่ภายในอาคารแบบเก่าตั้งแต่สมัยอดีต ทุกก้าวภายในจัตุรัสแห่งนี้จึงมีความขลังและเต็มไปด้วยสีสันของการช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก โดยเฉพาะร้านคริสตัลซึ่งมีกระจายอยู่ในทุกมุม 

ลานกว้างของจัตุรัสในช่วงก่อนคริสมาสต์ได้ถูกจัดตกแต่งให้กลายเป็นงานแฟร์หรือ Christmas Market ให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวออกมาจับจ่ายซื้อของขวัญและชิมอาหารอร่อยๆ ที่มีร้านค้ามากมายมาเปิดร้านให้ได้ลิ้มลอง ผมได้ลองกินอาหารเส้นสักอย่างของที่นี่ (ไม่ใช่เส้นสปาเก็ตตี้แต่เป็นแป้งคนละแบบ) ตอนผัดหน้าตาดูดีเลยก็เลยอยากลองแต่พอได้กินรสชาติไม่ค่อยอร่อยอย่างที่คิด จากนั้นก็เลยเอาเซฟๆ จัดเป็นใส้กรอกแทนซึ่งก็ไม่ผิดหวัง อร่อยได้มาตรฐานใส้กรอกยุโรป

บริเวณโดยรอบของจัตุรัสเมืองเก่าถือว่ามีอาณาบริเวณอยู่ในรัศมีที่สามารถเดินได้จนทั่วแบบไม่เหนื่อย (ด้วยอากาศที่หนาวด้วย ถ้าเป็นอากาศบ้านเราคิดว่ามีได้เป็นลมแดดแน่นอน) เราจึงได้เห็นนึกท่องเที่ยวเดินกันให้เต็มพื้นที่ ผู้คนจากหลายเชื้อชาติต่างก็มารวมกันที่นี่ตลอดเวลาจึงได้ยินแทบทุกภาษาที่คนสื่อสารกัน (รวมทั้งภาษาไทยด้วย) 

ไม่ห่างจากจัตุรัสเมืองเก่าหรือ Old Town Square ก็จะมีจุดที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนปักหมุดไว้เลยว่าต้องไปนั่นก็คือสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) ที่เป็นสะพานเก่าแก่ของเมืองถูกสร้างมาตั้งสมัยของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 4 โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี ค.ส. 1357 และมาแล้วเสร็จสมบูรณ์ในศตวรรษที่ 15 เมื่อก่อนนี้เรียก Stone Bridge (ตามวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง) หรือ Prague Bridge (เพราะเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่าง Prague Castle และ Old Town Square ต่อมาได้มีการตั้งชื่อใหม่ว่า Charles Bridge ในปี 1870

ด้วยจุดที่ตั้งของสะพานชาร์ลส์ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง Praque Castle และฝั่งของ Old Town Square จึงทำให้ทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำวัลตาวาบริเวณนี้มีความสวยงามกว่าส่วนอื่นๆ ของเมือง เพราะนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับความงามของโค้งน้ำและสถาปัตยกรรมที่สูงเด่นของยอดปราสาททั้งสองฝั่งในระยะไกลที่ดูเหมือนเมืองทั้งเมืองคือภาพวาดของศิลปินชั้นสูง นอกจากนี้สีสันอีกอย่างของสะพานชาร์ลส์คือผลงานศิลปะของจิตกรที่นำมาแสดงขายให้กับนักท่องเที่ยว 

มากไปกว่านั้นบรรยากาศในวันที่ผมไปยืนอยู่บนสะพานนั้นถึงแม้จะติดลบและมีลมพัดตลอดเวลา (บอกได้เลยว่าหนาวจนมือแข็งตอนถอดถุงมือถ่ายวีดีโอ) แต่ความรู้สึกกลับดูอบอุ่นขึ้นมาในใจเมื่อได้เห็นคู่รักมากมายที่มาชมความงามสุดโรแมนติกของฤดูหนาวในกรุงปรากที่สะพานชาร์ลส์… คนโสดอย่างผมก็ได้แต่มองสิเนอะ (กลับแยกย้าย)

รับข่าวสาร รีวิวการใช้สินค้าและบริการต่างๆและ โปรโมชั่นเด็ด! ก่อนใครที่นี่
Copyright ©2018, iReview360, All rights Reserved. Web Development By adxmatching
Branded Content

แชร์เรื่องราว อัพเดทข่าวสาร ไลฟ์สไตล์ ข้อมูลรีวิว ที่เที่ยว ที่กิน และโปรโมชั่นเด็ด!!

iReview 360°
สมัครรับข่าวสาร รีวิวการใช้สินค้าและบริการต่างๆและ โปรโมชั่นเด็ด! ก่อนใครที่นี่
Copyright ©2018, iReview360, All rights Reserved. Web Development By adxmatching
รับข่าวสาร รีวิวการใช้สินค้าและบริการต่างๆและ โปรโมชั่นเด็ด! ก่อนใครที่นี่
Copyright ©2018, iReview360, All rights Reserved. Web Development By adxmatching