โรงแรมเมร่ามาเร่ โรงแรมใหม่ในพัทยาที่สวยระดับ luxury ถ่ายรูปมุมใหนก็สวยไปหมด

การอยู่ในสายอาชีพที่ต้องใช้ความคิดถ้าเอาแต่ทำงานจนไม่ได้พักผ่อน สมองมันก็จะล้าจนถึงขั้นไอเดียตีบตัน สมองไม่แล่นไปเลย เพราะสมองคนเราควรได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ดังนั้นการปล่อยสมองให้โล่งไม่ต้องคิดอะไรดูบ้างสักวันหรือสองวันแล้วกลับมาคิดงานต่อ มักทำให้ผมได้ไอเดียใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นกว่า ไอเดียที่ได้จากสมองล้าๆ ที่ใช้ความพยายามเค้นอยู่หลายวัน

กรณีคนอื่นผมไม่รู้นะ แต่สำหรับผมการพักผ่อนใช้ได้ดีเสมอเวลาที่คิดงานไม่ออก การได้แว้บไปพักซักหน่อยแล้วค่อยคิด มักจะได้มุมคิดดีๆ กลับมาด้วย อาจจะเพราะสมองเราได้พักหรือการที่ได้ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เห็นอะไรใหม่ๆ สวยๆ งามๆ มันก็ช่วยเปิดสมองให้ความคิดบรรเจิดได้ดีเหมือนกัน

ทริปนี้ผมมีเวลาไม่มากนัก (เพราะก็เริ่มวุ่นกับงานกองประกวด Miss Supranational Thailand อีกแล้ว) และทุกครั้งที่อยากพักแต่ไม่มีเวลาผมก็จะเลือกเอาที่ขับรถไปได้เลยใกล้ๆ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง “พัทยา” จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ผมไปบ่อยๆ เพราะใช้เวลาขับรถแค่ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงละ (ใช้เวลาพอๆ กับการฝ่ารถติดในกรุงเทพฯ เลย) แต่การทำอะไรซ้ำๆ เราก็เบื่อ ไปแล้วไปอีกมันก็ไม่อยากไป (จริงมั้ย) ดังนั้นทุกครั้งที่ผมไปก็จะเลือกไปพักที่โรงแรมใหม่ๆ เอาบรรยากาศใหม่ๆ เพื่อหลีกหนีความจำเจ

ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นมนุษย์ประหลาดที่ไม่ชอบทำอะไรในช่วงที่คนอื่นทำ ฉะนั้นการไปของผมจึงเลือกไปวันธรรมดาต่างจากคนส่วนใหญ่ที่มักเลือกไปพัทยาในวันหยุดยาว ซึ่งข้อดีคือผมไม่ต้องไปเจอกับอาการรถติดตรงด่านมอเตอร์เวย์ ภาวะรถติดบนถนนสุขุมวิทและในเมืองพัทยา (นี่คือข้อดีของการเที่ยวช่วงที่คนไม่นิยมเราก็จะตัวเบาสบายไม่วุ่นวาย)

ครั้งนี้ผมเลือกพักที่โรงแรมเปิดใหม่เลยชื่อ Mera Mare อ่านกันถูกมั้ยครับ ถ้าไม่ถูกก็ไม่แปลกเพราะผมก็อ่านผิด (555) มารู้ว่าชื่อต้องออกเสียงว่า เมร่า มาเร่ ก็ตอนได้โทรเข้าไปที่โรงแรมนั่นแหละ และมาเข้าใจความหมายจริงๆ ก็ตอนมาถึงโรงแรม Mare เป็นศัพท์ในภาษาอิตาเลี่ยนมีความหมายว่า ทะเล ในภาษาไทย ส่วน Mera ก็เป็นชื่อเด็กผู้หญิง ต่อไปนี้ถ้าใครสนใจอยากมาพักตามผมก็จะเรียกชื่อโรงแรมนี้กันถูกแล้วนะครับ เมร่า มาเร่

สิ่งแรกที่สะดุดตาผมตั้งแต่ตอนจองแล้วก็คือที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ใจกลางพัทยาเหนือและอยู่ติดหน้าหาดแบบที่เดินข้ามถนนจากโรงแรมก็ถึงทะเล ขับรถไปพอหลุดจากมอเตอร์เวย์ก็เลี้ยวขวาเข้าเส้นสุขุมวิท จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นพัทยาเหนือตรงมาจนถึงวงเวียนปลาโลมาก็ออกซ้ายเข้าเส้นเลียบหาด ตรงมาเรื่อยๆ โรงแรมจะอยู่ซ้ายมือด้านหน้ามีป้ายของโรงแรมเด่นเป็นสง่า ถ้าไม่มีรถจอดบังผมว่าไม่น่าขับเลยแน่นอน

โรงแรมนี้ตกแต่งแนวหรูหราเลยครับ เพราะจุดขายของที่นี่เป็นกลุ่ม Luxury Hotel ไม่ได้เป็นกลุ่ม Budget Hotel ดังนั้นเราจะไม่เห็นกรุ๊ปทัวร์เดินไปเดินมาในโรงแรมนี้แน่ๆ ส่วนมากจะเป็นแขกที่เลือกจองมาพักกันเองกลุ่มเล็กๆ ความเป็นส่วนตัวสูงมากเพราะทั้งโรงแรมมีแค่ 80 ห้องเท่านั้น

เข้ามาในล้อบบี้เราจะได้เห็นสไตล์การตกแต่งที่สะดุดตาเลย ถ้าถามพนักงานที่นี่ก็จะบอกว่าเป็นแนวอังกฤษแบบย้อนยุค ที่ช่วงอุตสาหกรรมด้านต่างๆ รุ่งเรืองถึงขีดสุด ทั้งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ หรือแม้แต่ด้านการเดินเรือ (เอาภาษาบ้านๆ ก็ยุคล่าอาณานิคมนั่นแหละ) แต่สำหรับผมขอให้คำนิยามว่ามันเป็นแนว Soho Luxury Design ที่จะมีความเป็น Loft หน่อยๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่มีความหรูหราของวัสดุที่เลือกใช้ที่ให้ความมันวาว ที่นี่นำเอาความย้อนยุคมาปรับใช้ให้ดูทันสมัยไม่ได้เก่าเก็บแบบโบราณแต่ดูสวยงามเข้าถึงได้ เฟอร์นิเจอร์หรือหินอ่อนที่นี่หลายๆ ชิ้นถูกสั่งนำเข้ามาจากอิตาลีเพื่อตกแต่งโรงแรมของสาวน้อยริมทะเล หาดพัทยาให้สวยกว่าโรงแรมใหนๆ ที่คุณเคยเห็นในพัทยา มาแล้วชอบเหมือนผมแน่นอน ผมมั่นใจ

ห้องพักที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ ใหนๆ ก็มาแล้วผมเลยถือโอกาสชมห้องอื่นๆ เผื่อจะได้ชวนเพื่อนๆ มาพักบ้าง ที่นี่มีห้องสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวในแบบห้อง suit ที่จะมีห้องพักหลายห้องนอนในหนึ่งยูนิต สองห้องที่ผมชอบเป็นพิเศษเลยก็มีห้อง Mera Mare Family Suit ที่จะมีห้องนอนลูกๆ เป็นเตียงสองชั้นน่ารักเลย ดูอบอุ่นสำหรับเด็กๆ (แต่เล็กไปสำหรับผม) และห้องนอน master ที่มีสองเตียงมี King Size และ เตียงเล็กแถมมาอีกหนึ่ง (ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเผื่อสำหรับครอบครัวที่มีลูกมากกว่าสองคนนะ)

และอีกห้องที่ผมชอบมากเพราะเหมาะกับแก้งเพื่อนที่อยากมาปาร์ตี้กันนอกกรุงเทพฯ จัดไปกับห้อง Mera Mare Sensation Suit มีพร้อมทุกสิ่งสำหรับเนรมิตห้อง Suit วิวทะเลแห่งนี้เป็นห้องดินเนอร์ส่วนตัวสวยๆ สำหรับทานข้าวและดื่มไวน์ในโอกาสพิเศษ โต๊ะอาหารขนาดสี่ที่นั่ง ห้องนอนสองห้องนอน ที่อีกห้องจะเป็นแบบ connecting room ที่เปิด-ปิดแยกได้ ก็เป็นส่วนตัวดีครับ และที่สะดุดตาอีกอย่างเลยคืออ่างอาบน้ำแบบ Sea View ที่ในตอนเย็นๆ จะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยงามมาก เหมาะกับการนอนแช่น้ำสบายๆ เรียกพลังก่อนเริ่มปาร์ตี้ (555)

ส่วนห้องที่ผมเลือกพักทริปนี้เป็นห้อง Mera Mare Deluxe Premier Room ห้องนี้เหมาะกับการพักหนึ่งคนหรือเป็นคู่ เพราะเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่เลย ห้องน้ำกว้างมากเป็นพิเศษพร้อมหน้าต่างบานเล็กรับแสงจากด้านนอกในตอนกลางวันทำให้รู้สึกโล่งสบายทั่วทั้งห้อง layout ห้องนี้จะเป็นแนวยาวแบบขนาดกับตัวตึก ดังนั้นถ้าเปิดม่านแบบทั้งหมดเลยจะได้วิว panorama ที่โรงแรมส่วนน้อยจะมีห้องแบบนี้ (ห้องนี้ต้องขอใช้ภาพของทางโรงแรมนะครับ เพราะของใช้ผมจะเต็มห้องไปหน่อยแอบรกไปนิด)

แต่ถ้ามาแบบเพื่อนกันไม่อยากนอนเตียงเดียวกันก็มีห้อง Mera Mare Deluxe Room ให้เลือกครับ อันนี้ layout ห้องจะเป็นแนวยาวไปทางระเบียง ห้องน้ำจะอยู่ติดประตูห้องแบบห้องโรงแรมทั่วไป ผนังกระจกห้องน้ำก็จะเป็นกระจกใสบานใหญ่รับแสงจากระเบียงแอบเซ็กซี่เล็กๆ ถ้าเขินอายก็มีม่านปิดครับ (ไม่ต้องกลัวว่าจะโป๊ให้เพื่อนเห็น ซึ่งห้องน้ำแบบนี้อาม่าก็จะไม่ค่อยชอบนะ)

จริงๆ ถ้ามาพักที่นี่แทบไม่ต้องออกไปใหนไกลเลยแบบผม เพราะที่นี่มีร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆ ไว้บริการ ด้านหน้าของโรงแรมอันนี้เปิดให้แขกภายนอกเข้ามาใช้บริการได้ด้วยก็จะมีร้านอาหารสวยเลยชื่อ Pastry Addiction ร้านนี้เสริฟเมนู Fusion อร่อยๆ วันที่เข้าพักผมได้ลองพิซซ่าและตอนเย็นก็มี pasta แบบเผ็ดเลย ถูกปากคนไทยแบบไม่กั๊ก คือเผ็ดแบบอร่อยๆ และขนมเป็นเครปกับไอศกรีมอร่อยๆ มากตอนเขียนนี่นึกถึงอาหารก็น้ำลายสอเลย (เอาไว้จะมาเขียนเฉพาะร้านนี้เพิ่มให้อีกทีครับ เพราะเดี๋ยวจะยาว) ร้านนี้ตอบไลฟ์สไตล์คนยุคโซเชียลมาก เพราะนอกจากอาหารอร่อย เค้กหน้าตาดีเต็มตู้ ร้านยังตกแต่งได้สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปเช็คอินเพื่อโพสต์ลงเฟสบุ๊คและ instagram เรียกไลค์ได้รัวๆ

จบทริป 2 วันหนึ่งคืนที่พัทยาที่ได้มาพักผ่อน นอนแบบเต็มๆ ตื่นมา enjoy กับอาหารเช้าที่ทางโรงแรมเตรียมไว้แบบจัดเต็มครบทุก station เอาจริงๆ ที่นี่จัดดีกว่าโรงแรมเมืองนอกที่เคยไปพักมา มาตรฐารการ service ของโรงแรมไทยเราดีกว่าที่อื่นเยอะครับ และโรงแรม Mera Mare ที่นี่ก็ได้รับรางวัลระดับโลกเมื่อปี 2017 โดยเป็น Winner ในกลุ่ม World Luxury Hotel จาก Trip Avisor ด้วยครับ ดังนั้นถ้ามีเวลาแค่น้อยนิดแบบผมแต่อยากหนีความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ก็แว้บไปใกล้ๆ แบบพัทยา เช็คอินเข้าพักโรงแรมดีๆ ซักที่ก็ช่วยเติมพลัง charge แบตเต็มๆ ก็พร้อมกลับมาลุยงานต่อได้แล้วครับ